เป็นอีกคนที่เรียกแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับผู้คนได้เป็นอย่างมาก สำหรับพิธีกรสาวเก่งฝีปากกล้าอย่าง “เป็กกี้ ศรีธัญญา” เพราะไม่ว่าจะเป็นงานไหนเจ้าตัวก็จัดหนักจัดเต็ม
ล่าสุด เป็กกี้ ออกมายอมรับกับ พี่หนูแหม่ม ผ่านรายการ โต๊ะหนูแหม่ม ว่าหลงแฟนมากจนเปย์เงินใช้ปีละล้าน พร้อมตอบคำถามที่หลายคนสงสัยกันว่าเมื่อไรคู่เธอจะมีข่าวดีเรื่องแต่งงาน
จะมีงานแต่งเกิดขึ้นไหม ? “เรื่องนี้ทางฝั่งผู้ชายก็พูดอยู่ตลอดเวลาว่าอยากให้บ้านเสร็จแล้วเขาจะแต่งงาน เราเองก็รู้สึกว่าการแต่งงานไม่ได้เป็นเครื่องหมายอะไรที่มันสำคัญมาก
เพราะว่าทุกอย่างโอเคแล้ว อยู่ด้วยกันมีความสุข ชีวิตดีแล้ว แต่ว่าทางฝั่งผู้ชายเขาอยากแต่งงานมาก เขาอยากมีลูกมาก”
ฝากไข่ไว้หรือยัง ? “ไม่ฝากอะไรทั้งนั้นค่ะ เพราะเราทั้งคู่เคยคุยกันแล้วว่า ถ้าคุณทำแบบธรรมชาติได้ ดิฉันให้กำหนด 5 ไข่ตก เราคุยกันไว้ว่าถ้าคุณสามารถทำโดยธรรมชาติได้โดยในระยะเวลาที่กำหนด
ดิฉันพร้อมที่จะให้บุตรที่มีหน้าตาอาจจะดูแปลกนิดหนึ่งกับคุณ เพราะตอนนี้ก็อายุ 43 ปีแล้ว เราก็ไม่กล้าท้อง กลัววิ่งไม่ทันลูก แล้วถ้ามีลูกแล้วเราก็กลัวคอลลาเจนจะลดอะไรหลายๆ อย่าง”
จริงไหมก่อนโควิดหาเงินได้เป็นล้านต่อวัน ? “ใช่ค่ะ อันนี้ภูมิใจมาก ต้องขอบคุณผู้สนับสนุนทุกคนที่จ้างไปอีเวนต์ไปงานต่างๆ
วันนึงเคยรับอีเวนต์ได้มากสุด 4 งาน ไม่รวมถ่ายรายการ เคยมีนับกันว่าได้มากสุดกี่งานต่อเดือน ตอนนั้นเราทำได้ 53 งานต่อเดือน ที่ไม่รวมถ่ายรายการ”
พอช่วงนี้โควิดเบาลง งานเริ่มกลับมาหรือยัง ? “ก็พอมีบ้างค่ะ แต่ก็ยังไม่เต็มที่เหมือนเมื่อก่อน ด้วยความที่ว่าเงินมันหายากด้วย คนจะจัดงานเขาก็ต้องคิด
อย่างล่าสุดก็มีงานไปโชว์ตัวที่ดูไบ เราก็เอนเตอร์เทนเป็นสองภาษา งานนี้คือเราได้ทิปดีมาก เป็นล้าน ปังเวอร์ แต่กฎหมายบ้านเขาคือห้ามรับทิปบนเวที แต่ก็หอบเงินมาเป็นกอบเป็นกำ”
มาทำงานทีก็ต้องเอาให้คุ้ม พากันเที่ยวต่อ ? “ตอนนั้นเรามีความคิดว่า มาดูไบก็ต้องไปทะเลทราย ก็เลยตัดสินใจเช่ารถจิปตะลุยกันในทรายหาด
ปรากฏว่าขับไปขับมารถไปติดกับบ่อทราย ซึ่งตรงนั้นเป็นทะเลทรายที่ร้อนมาก ประมาณ 60 องศา ในเวลานั้นก็มีคนขับมืออาชีพเข้ามาช่วย
ซึ่งเขาก็มาอธิบายให้เราฟังทีหลังว่า ถ้าจะขับรถต้องมีใบขับขี่นะ จะมาขับในทรายแบบนี้ไม่ได้ มันผิดกฎหมาย ถือเป็นความโง่ของเรา เรียกว่าตอนนั้นก็คือทิปที่ได้มาจ่ายค่าเสียหายไปหมด”
รวยระดับเป็กกี้ เปย์เงินสามีปีละล้าน ? “ถามว่าให้ไหมก็ให้นะ อยากเอาไปซื้ออะไรก็ได้ เพราะเขาชอบจักรยาน รถเก่า อยากซื้ออะไรก็ซื้อ
แต่คุณฐาเขาจะเป็นคนใช้เงินเป็น อย่างที่ซื้อมาเขาก็มาทำสีทำอะไรต่อ แล้วก็เอาไปขายได้ ถือเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง และเขาเป็นคนเก็บเงินเก่งด้วย
สาเหตุที่ให้เงินเขาปีละ 1,000,000 บาท เพราะเขาก็ต้องทำงานให้กับเราด้วย คอยดูแลคอยเป็นผู้จัดการให้เรา”
ที่มา: Sanook