จากกรณีครูท่านหนึ่งที่ จ.อุดรธานี โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อว่า Chatchawan pimpa เปิดเผยเรื่องราวของครอบครัว 5 ชีวิต ที่ไร้บ้าน โดยบอกว่า
“จากที่ได้ไปสำรวจออกเยี่ยมบ้านนักเรียน เจอสภาพความเป็นอยู่น้องแล้ว สงสารมาก ไม่มีน้ำไม่มีไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด
ที่อยู่ก็มีคนให้มาอยู่ฟรี สร้างกระต๊อบเล็กๆ อยู่ แม่น้องทำงานคนเดียว
จากการสอบถามทราบว่าพ่อเป็นโรคลมชักจึงทำงานหนักไม่ได้ ไม่มียานพาหนะ อยู่ในป่ายุงเยอะมาก น้องเป็นเด็กเรียนดีขยันเชื่อฟังครูอาจารย์
กลับมาเลยได้พูดคุยกันในกลุ่มเพื่อนมีผู้มีจิตศรัทธาช่วย บริจาคข้าวสารและเสื้อผ้าให้น้อง ต้องขอขอบพระคุณเพื่อนเอ ด้วยนะครับ วันนี้ได้นำไปมอบให้น้องช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว”
ล่าสุด วันนี้ (22 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เดินทางไปพบครอบครัวดังกล่าว พร้อมด้วย ฉัตรชัย ทองเจริญ ผอ.โรงเรียนบ้านปากดงส่งเสริมธรรม และ นายชัชวาล พิมพา ครูประจำชั้นน้องแพรวา
พบว่า พ่อแม่และลูกอีก 3 คน คือ นางอุดม อายุ 41 ปี นายอนุสรณ์ อายุ 45 ปี, ด.ญ.แพรวา อายุ 12 ขวบ, ด.ช.พรเทพ อายุ 4 ขวบ และ ด.ช.พรชัย อายุ 2 ขวบ
โดยทั้ง 5 ชีวิต อาศัยอยู่ในกระต๊อบ ในป่าสักของชาวบ้านที่ใจดีให้อยู่ฟรี สภาพบ้านสร้างเป็นกระต๊อบมุงด้วยสังกะสีเก่า ห้องน้ำก็ใช้กระเบื้องล้อมเอาไว้ ไม่มีโถส้วม
ไฟฟ้าก็ไม่มีและน้ำต้องใช้ถังน้ำไปขอน้ำใช้จากชาวบ้าน ส่วนชีวิตความเป็นอยู่ครอบครัวนี้ คนเป็นแม่ต้องทำงานคนเดียวส่วนสามีเลี้ยงลูกและป่วยเป็นโรคลมชัก
นางอุดม เปิดเผยว่า สภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวตนเองตอนนี้ถือว่าลำบากทุกอย่าง ตนเองมีลูก 5 คน ลูก 2 คน ให้อาช่วยเลี้ยงดูที่จังหวัดชัยภูมิ
ส่วนอีก 3 คน ตนเองและสามีเป็นคนเลี้ยงดู โดยลูกคนที่ 1 เป็นทหารเกรณฑ์ คนที่ 2 เรียนที่ จ.ชัยภูมิ คนที่ 3 และ 4 เรียนโรงเรียนบ้านปากดงส่งเสริมธรรม อ.เมือง จ.อุดรธานี และคนที่ 5 ยังเล็กมีพ่อคอยดูแล
เมื่อเห็นลูกคนอื่นมีความรู้พัฒนาก็อยากให้ลูกตัวเองมีความรู้พัฒนาเหมือนลูกคนอื่น หากเป็นไปได้อยากอยากให้มีคนใจบุญเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องการศึกษาของลูกๆ
อยากให้ลูกมีการศึกษาที่ดีถ้าเป็นไปได้ก็อยากมีที่เป็นของตัวเอง เพราะหากตนเองและสามีเป็นอะไรไป ไม่รู้ลูกจะอยู่อย่างไร
นางอุดม กล่าวต่อว่า เดิมทีแล้วตนเองเป็นคนอำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี มาทำงานในอำเภอเมือง มีสามีแล้วก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันกับสามีที่แห่งนี้
ช่วยสามีเฝ้าสวน หลังพ่อเสียชีวิตพี่สาวก็ขายบ้านขายที่ดินจึงไม่ได้กลับไปที่วังสามหมออีก
การเลี้ยงดูลูกวันเรียนเช้าก็เดินไปส่งเย็นก็เดินไปรับ หลังโรงเรียนรู้ว่าเดินไปส่งโรงเรียนก็ส่งรถมารับ เมื่อลูกเลิกเรียนมาจากโรงเรียนก็ให้ลูกรีบทำการบ้าน เนื่องจากไม่มีไฟฟ้าและที่นี่ยุงเยอะ
สำหรับอาหารการกินก็อยู่กันแบบขัดสน บางวันก็ไม่ได้กินอาหารครบ 3 มื้อ บางวันลูกก็จะกินข้าวกับน้ำตาลและกะปิ เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยไม่สบายก็เดินไปอนามัยซึ่งอยู่ไม่ห่างกัน
ทั้งนี้ ตัวเองมีอาชีพเป็นแม่บ้านที่คาเฟ่แห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าของคาเฟ่ก็เป็นเจ้าของที่ดินที่ให้อยู่อาศัย ได้เงินเดือน 8,000 บาท
ส่วนสามีนั้นไม่สามารถทำงานได้เนื่องจากป่วยเป็นโรคลมชัก ทำได้เพียงหาหน่อไม้ในสวนที่เฝ้าไปขาย
ที่มา: Sanook