“ผู้ปิดทองหลังพระ” นายอนิรุจน์ ถาวรพงษ์ อายุ 50 ปี อดีตหนุ่มสำนักงานที่ดินแห่งหนึ่ง ที่ใช้ชีวิตหลังออกงานมาช่วยเหลือสังคมโดยการกวาดถนนเก็บขยะ ตามริมถนนสาย 331 ระหว่างแยกกม.10-แยกเกษมพล ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มานานกว่า 20 ปี
ภาพของ อนิรุจน์ ในภาพความทรงจำของชาวบ้าน มักจะเห็นเขาแต่งตัวมอซอ ยืนจับไม้กวาดดอกหญ้าเดินกวาดขยะตามถนนจนเป็นภาพที่คุ้นชินของคนในละแวกนี้ แน่นอนว่าใครเห็นสภาพของ “อนิรุจน์” ก็จะตั้งคำถามว่าเขา “บ้ า” หรือ “ส ติ ไม่ ดี” หรือเปล่า
ความจริงแล้ว อนิรุจน์ เป็นคนปกติมีครอบครัว และครอบครัวของเขาเข้าใจดีว่า เขาเป็นคนมีน้ำใจชอบช่วยเหลือคนอื่น และมักมาช่วยกวาดขยะ ซึ่งก็ไม่ได้มีใครห้าม มีแต่สนับสนุนในการทำดีของเขา
โดยเจ้าตัวได้เปิดใจ เล่าสั้นๆ ทำไมถึงมากวาดขยะแบบนี้ อนิรุจน์ ตอบด้วยแววตาที่จริงใจ “อยากทำ ไม่ว่างงานและเป็นสิ่งที่รัก” แม้คำตอบอาจจะดูน้อยไปหน่อย แต่ความหมายสะท้อนถึงความชัดเจนจริงใจ
ทุกครั้งที่ “อนิรุจน์” ออกจากบ้านไปช่วยสังคมกวาดถนนก็จะมีผู้ใจบุญคอยช่วยเหลือมอบอาหาร และเงิน ให้ไว้ใช้ประทังชีวิตมาโดยตลอด ตรงนี้เองทำให้ “อนิรุจน์” ไม่ต้องเป็นภาระของคนที่ครอบครัว หรือภาระต่อสังคม
นางลออ สุทธิศักดิ์สุนทร อายุ 64 ปี เจ้าของร้านของชำ ตั้งอยู่เลขที่ 11/1 หมู่ 2 ต.พลูตาหลวง เล่าว่า ตนเปิดร้านของชำแห่งนี้มานานร่วม 40 ปี พบนายอนิรุจน์ ตั้งแต่ครั้งยังเก็บของเก่าขาย ก่อนจะมาเดินกวาดถนนนานราว 20 ปี ทุกวันก็จะเดินมาแวะนั่งพักที่ร้านซื้อน้ำและขนมกิน นอกจากนี้ ยังมีผู้ใจบุญคอยให้อาหาร และเงิน ทำให้เขามีติดตัวมาซื้อของทุกวัน
ขอยืนยันว่า นายอนิรุจน์ เป็นคนดีไม่เคยของเงิน ไม่เคยสร้างปัญหาหรือความเดือดร้อนให้กับสังคม ทั้งชีวิตอยู่กับการกวาดถนน ส่วนที่หลายคนมองว่าเขาอาจเป็นคนสติไม่ดี แท้จริงแล้วเขาเป็นคนพูดจารู้เรื่อง มีครอบครัวใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป หากใครพบเห็นก็สามารถช่วยเหลือเขาด้วยการให้อาหารหรือเงิน ในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกันหรือตอบแทนที่เขาทำความดีให้กับสังคม
ท้ายที่สุด อนิรุจน์ ได้ทิ้งท้ายไว้ว่า “จะยังคงกวาดถนนอย่างนี้ต่อไปจนกว่าจะไม่ไหว”
ที่มา: เดลินิวส์